วันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2560

เพื่อความสบายใจของคนทุกฝ่าย

ตื่นมาแต่เช้าด้วยความรู้สึกไม่สดชื่นเท่าไรเพราะถูกคนที่นั่งอยู่ในคอกกันกระแทกข้างๆปลุกขึ้นมาให้ไปส่งที่บ้านเพื่อนหน่อยคนที่ปลุกก็ไม่ใช่ใครที่ไหนคือน้องสาวตัวแสบของเรานี่แหละ น้องสาวเรารีบวิ่งมาขึ้นมาที่หน้าห้องเราและก็กระหน่ำเคาะประตูแบบชุดใหญ่เลยประมาณว่าไม่อยากตื่นก็ต้องตื่นเพราะรำคาญเสียงเคาะประตู เราได้ยินเสียงแบบนี้ก็รำคาญมากจนต้องตื่นขึ้นมาและก็ต้องตะโกนกลับไปด้วยไม่อย่างนั้นน้องสาวเราไม่ยอมหยุดเคาะแน่ๆ เราก็ต้องรีบไปอาบน้ำแต่งตัวและก็ลงไปข้างล่างหาอะไรกินลองท้องแล้วก็พาน้องสาวเราไปส่งที่คอกหัดเดินของเขา เราออกจากบ้านก็สายมากแล้วก็คิดว่าเราคงจะขับรถไปได้อย่างสบายๆรถไม่ติดถนนโล่งแต่พอออกจากบ้านมาไม่ได้เท่าไรรถติดยาวมากแทบไม่เคลื่อนไปไหนเลย เรารู้สึกเบื่อเลยรถไปได้ที่ล่ะนิดล่ะนิดกว่าจะผ่านไปได้แต่ล่ะที่นานมาก แต่แล้วเราก็ผ่านมาจนได้ถนนเริ่มโล่งมานิดหนึ่งรถเริ่มไปได้อย่างสะดวกค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย เราขับมาส่งน้องสาวจนถึงบ้านเพื่อนของน้องแต่โชคดีที่เราไม่ส่งมารับอีกเพราะว่าน้องเรามันจะกลับบ้านเองเราก็เลยขับรถออกมาและก็ไปหาอะไรนิดหน่อย เราขับรถไปซื้อกับข้าวเจ้าประจำที่เรากินบ่อยๆและร้านนี้กับข้าวก็อร่อยมากและร้านนี้คนมาซื้อก็เยอะมากๆเช่นกันเรามาซื้อจนสนิทกับแม่ค้าที่ขายนวมซี่กันกระแทกบางที่ก็ยังมาช่วยแกขายเบาะกันกระแทกเลยเวลาที่แกยุ่งๆ เราขับรถไปจอดข้างๆร้านแกและก็ลงมาซื้อกับข้าวแต่ช่วงนี้ยังไม่ค่อยมีลูกค้าเยอะเท่าไรเราก็เลยไม่ต้องช่วยแกขายและก็ไม่ต้องรอนาน เราก็สั่งกับข้าวแกเหมือนเดิมและแกก็ตักให้แบบพิเศษมากๆแต่ก็คิดราคาเท่าเดิมบางที่ก็รู้สึกเกรงใจแกบ้างแต่ก็จะซื้อหลายๆอย่างตลอด ซื้อเสร็จก็ขับรถกลับบ้านไปพักผ่อนและก็นอนต่ออีกสักหน่อยเพราะว่ารู้สึกยังนอนไม่เต็มอิ่มเลยขอไปพักสักหน่อย เรากินข้าวเสร็จแล้วก็รีบขึ้นไปนอนทันทีเรานอนพักยาวเลยอากาศก็กำลังดีเลยกำลังนอนหลับอย่างสบายๆ จู่ๆ เสียงโทรศัพท์ทั้งที่ตาเรายังปิดอยู่ เสียงน้องเราพูดมาอย่างออดอ้อนเลยว่าให้มารับที่บ้านเพื่อนด้วยไม่มีรถกลับบ้าน เสียงน้องเราออดอ้อนมาขนาดนี้แล้วเราก็ต้องใจอ่อนแหละก็ต้องไปรับน้องแหละและเราก็ต้องออกไปรับน้องอีกรอบวันนี้ทั้งวันไม่ได้ทำอะไรเลยรับน้องส่งน้องอย่างเดียวเลยเรา คอกกั้นเด็ก